CLEANING TIPS

CLEANING TIPS

เคล็ดลับฆ่าเชื้อรา

  1. เมื่อเกิดเชื้อราขึ้นกับวัสดุที่เป็นพื้นแข็ง ให้ใช้น้ำสบู่ แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาขัดห้องน้ำล้าง และขัดให้ด้วยแปรงชนิดแข็งจนเชื้อราออกจนหมดจด จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหลาย ๆ รอบจนกว่าจะแน่ใจว่าสะอาด
  2. วัสดุที่เป็นเนื้ออ่อน เช่น หนังสือ กระดาษมัน พลาสติก กล่อง ให้ใช้สำลีชุบฟอร์มาลีนเช็ด แล้วตามด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด จากนั้นนำไปวางไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเท และมีแสงแดดส่องถึงเล็กน้อย แล้วปล่อยให้แห้ง
  3. พรม ฝ้า หรือที่นอน หาก มีเชื้อราขึ้น ให้โยนทิ้งจะปลอดภัยที่สุด เพราะวัสดุที่มีรูอย่างพรม ฝ้า และที่นอนนี้ เป็นวัสดุที่ล้างเชื้อราออกได้ยากมาก และแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถล้างออกได้หมดจด 100% ซึ่งถ้าหากยังดันทุรังใช้ต่อไป ความชื้นในห้องก็อาจจะทำให้เชื้อราลุกลาม ฟักตัวได้กว้างขึ้น ทำให้เกิดโรคและเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของผู้อยู่อาศัยไม่รู้ตัว ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่คุ้มกันเลยล่ะ
  4. อย่าทาสีหรือแลคเกอร์ทับในบริเวณที่เกิดเชื้อรา ให้ล้างออกให้สะอาดหมดจดก่อน จากนั้นค่อยเริ่มทาสีหรือแลคเกอร์
  5. กรณีที่เชื้อราผุดให้เห็นในข้าวของเครื่องใช้ประเภทเครื่องหนัง ให้ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดหลาย ๆ ครั้ง จนแน่ใจว่าสะอาด จากนั้นเช็ดครั้งสุดท้ายด้วยน้ำสะอาด น้ำส้มสายชูจะช่วยกำจัดเชื้อราได้เป็นอย่างดี
  6. เฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ที่เป็นไม้เนื้ออ่อน โดยปกติวัสดุเหล่านี้จะเสี่ยงต่อการขึ้นราเมื่อมีความชื้นอยู่แล้ว ซึ่งมันจะไม่เป็นอะไรมากนักหากนำมาล้างทำความสะอาดภายใน 24-48 ชั่วโมงที่พบเชื้อ หรือเริ่มสังเกตเป็นดอกเป็นดวงขึ้น แต่ในกรณีที่น้ำท่วมแล้วปล่อยบ้านไว้นานเป็นเดือน ๆ ขอแนะนำให้ทิ้งข้าวของเครื่องใช้ที่ทำด้วยไม้เนื้ออ่อนเหล่านั้นไปอย่างไม่ ต้องเสียดาย เพราะอาจจะฟักตัวเป็นเชื้อราที่อันตรายมากขึ้นได้

การทำความสะอาดขอบยางตู้เย็น

ขอบยางตู้เย็นเวลาใช้ไปสักพักมักจะมีคราบดำๆ เกิดขึ้น โดยเฉพาะตู้เย็นที่ต้องตั้งอยู่ในห้องครัว จะโดนพวกคราบน้ำมันพร้อมกับฝุ่นผสมกันเกาะอยู่ตามขอบยางของตู้เย็นทำให้เกิดเป็นคราบสีดำๆ ดูสกปรกไม่สะอาดตา หรือบางครั้งเกิดจากความชื้นทำให้ขอบยางเกิดเป็นราดำ เวลาทำความสะอาดจะค่อนข้างยาก

สำหรับเคล็ดลับที่สามารถช่วยทำให้ขอบตู้เย็นทำความสะอาดได้ง่ายๆ จะได้แก่ ให้ใช้น้ำผสมกับฟองสบู่แล้วนำฟองน้ำชุบถูให้ทั่ว นอกจากจะช่วยทำให้ออกได้ง่ายแล้ว ตู้เย็นยังมีกลิ่นหอมสดชื่นอีกด้วย หรือใครจะใช้เป็นชมพู หรือน้ำยาล้างชาม ก็ใช้ได้เช่นกัน แต่ไม่ควรใช้เป็นผงซักฟอกเพราะจะล้างออกยาก

หลังจากเช็ดจนทั่วขอบตู้เย็นแล้วให้ใช้ผ้าขนหนูหรือผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดซ้ำอีกครั้งจนสะอาด แล้วให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดน้ำออกให้แห้ง จากนั้นให้ใช้ผงฟูหรือเบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำเปล่า เช็ดตามขอบตู้เย็นอีกครั้ง เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดเชื้อรา เพียงเท่านี้ขอบตู้เย็นก็สะอาดเหมือนใหม่ปราศจากเชื้อราและคราบสกปรกกันแล้ว วิธีป้องกันเชื้อรา ถ้าคุณพึ่งซื้อตู้เย็นมาใหม่ๆ และอยากป้องกันไม่ให้มีเชื้อราเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มแรก คุณควรนำผงฟูหรือเบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำเปล่า และใช้ผ้าสะอาดชุบส่วนผสมที่ได้ทาให้ทั่วขอบยาง ก็จะเป็นวิธีที่สามารถช่วยป้องกันไม่ให้ขอบยางตู้เย็นเกิดเป็นเชื้อราขึ้นมาได้ และยังง่ายต่อการทำความสะอาดในภายหลังกันอีกด้วย ลดปัญหากลิ่นอับ

สำหรับการทำความสะอาดภายในตู้ก็สามารถใช้ฟองสบู่ผสมน้ำทำความสะอาดได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าตู้เย็นเกิดมีกลิ่นอับด้วย ให้คุณวางถ่านหุงต้มสัก 2-3 ก้อน ไว้ในตู้เย็น หรือใครจะใช้เป็นผงกาแฟแบบบดใส่ภาชนะวางทิ้งไว้ในตู้เย็นก็จะสามารถช่วยลดปัญหาการเกิดกลิ่นอับภายในตู้เย็นได้เป็นอย่างดี และยังช่วยให้ตู้เย็นหอมสดชื่นกันได้อีกด้วย คราวนี้ถ้าพ่อบ้านแม่บ้านคนไหนกำลังคิดจะทำความสะอาดตู้เย็นกันอยู่ละก็ อย่าลืมนำเอาเคล็ดลับต่างๆ เหล่านี้ไปใช้กันดูนะคะ รับรองได้เลยว่าคุณจะรู้สึกว่าการทำความสะอาดตู้เย็นไม่ได้ยากอย่างที่คิด ตู้เย็นเมื่อเราใช้ไปสักพักมักเกิดปัญหาขอบยางมีคราบดำหรือเป็นเชื้อรา และภายในตู้เย็นมักเกิดกลิ่นอับ วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ ก็คือ การทำความสะอาดด้วยฟองสบู่ แต่ปัญหากลิ่นอับสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ เพียงใช้ถ่านหุงต้ม หรือกาแฟบดวางทิ้งไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ตู้เย็นของคุณก็จะหอมสดชื่นไร้กลิ่นอับกันได้แล้ว

สเปรย์จัดแต่งทรงผมสามารถกำจัดคราบน้ำหมึกได้

หลายคนอาจรู้มาบ้างว่าสรรพคุณของสเปรย์จัดแต่งทรงผมสามารถกำจัดคราบเปื้อนจากน้ำหมึกได้อยู่หมัด ทว่าความลับที่แท้จริงของเคล็ดลับนี้อยู่ที่แอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่ในสเปรย์จัดแต่งทรงผมต่างหากค่ะ นั่นก็หมายความว่าคราบเปื้อนจากน้ำหมึกจางหายไปได้ง่าย ๆ เพราะแอลกอฮอล์ ไม่ได้เป็นเพราะสเปรย์จัดแต่งทรงผม และหากใช้สเปรย์จัดแต่งทรงผมกำจัดคราบน้ำหมึกที่เปื้อนบนกระเบื้องก็อาจไม่ได้ผล เพราะเคล็ดลับนี้จะเวิร์กก็ต่อเมื่อใช้ทำความสะอาดใยผ้า เช่น เสื้อผ้าหรือโซฟาผ้า เพราะจัดเป็นโมเลกุลที่ใกล้เคียงกับเส้นผมของเรานั่นเอง

การกำจัดกลิ่น และ คราบบนกล่องพลาสติก

คราบฝังแน่นที่กำจัดยาก ซ้ำยังทำให้กล่องอาหารน่ารักๆ ของเราต้องหม่นหมอง แนะนำให้ผสมคลอรีนปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำอุ่นที่พอจะแช่กล่องพลาสติกได้ทั้งใบ หรือพอที่จะเทแช่ในกล่องพลาสติกได้เต็มกล่อง ในส่วนของฝากล่องที่มีคราบฝังแน่น ก็ให้หงายฝาไว้ในอ่างล้างจาน เทน้ำคลอรีนใส่ลงไปให้ปริ่มๆ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ก็นำกล่องและฝา มาล้างกับสบู่ และน้ำร้อนอีกครั้ง จนกล่องสะอาด สุดท้าย นำผ้าแห้งสะอาดๆ มาเช็ดคราบสกปรกออก

ถ้าลองกำจัดกลิ่นที่ติดกล่องพลาสติก มาหลายวิธีแล้วไม่ได้ผล ให้นำเบคกิ้งโซดา 4 ช้อนชา ละลายกับน้ำอุ่นปริมาณ หนึ่งต่อสี่ส่วนแกลลอนในกะละมัง แล้วนำกล่องพลาสติกที่มีกลิ่นเหม็น มาแช่ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที หรือจนกว่ากลิ่นเหม็นนั้นจะหายไป หลังจากนั้น นำกล่องไปล้างทำความสะอาดได้ตามปกติ

แต่ถ้าลองแล้วกลิ่นยังไม่หมดไป ให้นำกระดาษหนังสือพิมพ์มาขยำเป็นก้อน ใส่ลงไปในกล่อง แล้วปิดฝาให้สนิท ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 วัน หลังจากนั้น นำไปล้างด้วยน้ำยาล้างจาน และน้ำร้อน ต่อด้วยล้างด้วยน้ำเปล่า จนมั่นใจว่าคราบน้ำยาล้างจานนั้น ไม่เหลือแล้วอยู่ในกล่องแล้ว ก็ให้นำผ้าแห้งมาเช็ด เปิดฝาผึ่งลมให้แห้ง กลิ่นเหม็นที่กวนใจก็จะหมดไปในที่สุด

ทำความสะอาดประตูไม้

ประตูไม้ที่ใช้ตามห้องต่างๆ ภายในบ้าน ให้เริ่มจากการปัดฝุ่นที่อยู่ทั้ง 2 ด้านให้สะอาด หลังจากนั้น ก็ให้ใช้น้ำยาสำหรับผลิตภัณฑ์ ที่ใช้สำหรับทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ไม้ เอาผ้าชุบน้ำยา แล้วขัดให้ทั่วประตู ซึ่งน้ำยานี้ จะช่วยให้ประตูไม้มีความเงางามเหมือนใหม่ อีกทั้งยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ประตูเกิดเชื้อราได้อีกด้วย ในส่วนของลูกบิดประตูนั้น ก็ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบแอลกอฮอล์เช็ดให้ทั่ว เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว

ทำความสะอาดประตู PVC

ประตู PVCซึ่งมักจะใช้เป็นประตูห้องน้ำ ตามปกติแล้ว ก็จะสกปรกและมักมีคราบดำ ที่ดูแล้วไม่น่ามองเป็นอย่างมาก การทำความสะอาดประตู PVC นี้สามารถทำได้ โดยการใช้ แอลกอฮอล์ที่ใช้สำหรับล้างแผล หรือน้ำมันก๊าดใส่ขวดสเปรย์ที่ไม่ใช้แล้ว ฉีดพ่นบริเวณคราบรอยดำ หรือสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ เสร็จแล้วทิ้งเอาไว้ประมาณ 5 นาที พอได้เวลาแล้ว ก็เอาผ้าแห้งขัดรอยออก คราบรอยดำต่างๆ ก็จะจางหายไปได้มากเลยทีเดียว อีกวิธีหนึ่งคือ การใช้น้ำยาทำความสะอาดเอนกประสงค์ ที่หาซื้อได้ง่าย ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป นำมาเช็ดทำความสะอาดก็ได้ผลดี หรือถ้าหากเห็นว่า มีเชื้อราเกาะอยู่ที่ประตู ก็ใช้น้ำยาสำหรับฆ่าเชื้อราเช็ดอีกทีก็ได้